การเลี้ยงดูลูก - ศักยภาพสูงสุดของลูกน้อยด้าน ทักษะการเคลื่อนไหว ( เมื่อไหร่เจ้าตัวน้อยถึงจะเริ่มเดินได้ )

เด็กจะพัฒนาตามช่วงวัยของเขา โดยทั่วไปแล้ว เด็กจะเริ่มเดินอย่างช้าๆ (โดยเกาะเฟอร์นิเจอร์เพื่อเดินข้างๆ ) ได้ตั้งแต่อายุ 8 – 12 เดือน และเริ่มเดินได้ตั้งแต่อายุ 10 – 15 เดือน

การเดินได้เร็วหรือช้านี้จะเป็นแนวทางการพัฒนาของเด็ก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากลูกน้อยของคุณมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐานเหล่านี้ ควรไปปรึกษากับกุมารแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อขอคำแนะนำ

ลูกน้อยจะเรียนรู้การเดินได้อย่างไร

การเดินจะถูกควบคุมโดยระบบสมองสองส่วน ซึ่งรู้จักกันว่าเป็นระบบควบคุมการเคลื่อนไหวและระบบรับความรู้สึก ทั้งสองระบบนี้จะควบคุมการเคลื่อนไหวของขา และรักษาการทรงตัวและความสมดุลในการเดินตามลำดับ

จากนั้น ร่างกายของเด็กจะพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนร่างกายในขั้นพื้นฐาน ขาจะยาวขึ้น ไหล่จะกว้างขึ้น และศีรษะจะเล็กลง ซึ่งจะช่วยให้เขาทรงตัวได้ง่ายขึ้นเมื่ออยู่ในท่ายืน

การเดินนั้นขึ้นอยู่กับการฝึกหัด เด็กจะต้องฝึกยืน และฝึกเดินโดยมีคนคอยพยุงหลายชั่วโมงก่อนที่เขาจะสามารถพัฒนาความแข็งแรงและ ความสมดุลเพื่อเดินได้ด้วยตัวเอง

ลูกน้อยควรใช้อุปกรณ์ช่วยเดินหรือไม่

ไม่

อุปกรณ์ช่วยเดินไม่ได้ช่วยให้เด็กเรียนรู้การเดิน แถมยังอันตรายและอาจทำให้เด็กถึงแก่ชีวิตได้ ประเทศแคนาดาได้ออกคำสั่งห้ามขายอุปกรณ์ช่วยเดินสำหรับเด็กเรียบร้อยแล้ว

ทำไมอุปกรณ์ช่วยเดินสำหรับเด็กถึงเป็นเหมือนอาวุธมากกว่าที่จะอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ล่ะ
อันตรายที่ 1 อุปกรณ์ช่วยเดินสำหรับเด็กทำให้เด็กเดินได้ช้าลง

อุปกรณ์ช่วยเดินสำหรับเด็กไม่ได้ช่วยให้เด็กเดินได้เร็วขึ้น ที่จริงแล้ว อุปกรณ์ช่วยเดินอาจถึงขนาดทำให้เด็กมีการพัฒนาทักษะด้านการเคลื่อนไหวล่าช้า หรือทำให้เขาไม่เรียนรู้ที่จะเดินด้วยตัวเอง

อุปกรณ์ช่วยเดินส่วนมากได้รับการออกแบบในลักษณะที่เด็กจะไม่สามารถมองเห็น เท้าของตัวเองในขณะเดินได้ ซึ่งจะทำให้พัฒนาการทางการเคลื่อนไหวของเด็กชะลอตัว เนื่องจากเขาจะไม่สามารถคิดเชื่อมโยงได้ว่าขาและเท้าของเขานั่นเองที่ทำให้ อุปกรณ์เดินเคลื่อนที่ไปได้

อุปกรณ์ช่วยเดินจะทำให้เด็กสามารถเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้ง่ายเกินไป เด็กที่ใช้อุปกรณ์ช่วยเดินมีแนวโน้มที่จะออกสำรวจและตอบสนองความอยากรู้อยาก เห็นโดยที่ยังไม่ได้พัฒนาทักษะการทรงตัวหรือทักษะการเดินเลย ซึ่งอาจจะส่งผลให้พัฒนาการด้านทักษะการทรงตัวและการเดินล่าช้าออกไปก็ได้ การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าเด็กที่ใช้อุปกรณ์ช่วยเดินวันละ 2 ชั่วโมงจะเดินได้ช้ากว่าเด็กที่ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน

อันตรายที่ 2 อุปกรณ์ช่วยเดินสำหรับเด็กเป็นสาเหตุทำให้เด็กมีลักษณะการเดินผิดปกติ

ขาของเด็กจะไม่เหยียดตรงเมื่อ ‘เดิน’ ด้วยอุปกรณ์ช่วยเดิน สะโพกและเข่าจะโค้งงอและเขามีแนวโน้มที่จะเดินเขย่งเท้า ซึ่งเป็นสาเหตุให้เขาใช้และพัฒนากล้ามเนื้อขาสำหรับการเดินผิดปกติไป ลักษณะการเดินที่ผิดปกติเช่นนี้อาจแก้ไขได้ลำบากแม้ว่าเมื่อเขาจะเลิกใช้ อุปกรณ์ช่วยเดินแล้วก็ตาม

จากการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าลักษณะการเดินของเด็กจะแย่ลงเมื่อใช้อุปกรณ์ ช่วยเดิน โดยเฉพาะอย่ายิ่งหากเด็กมีลักษณะการเดินที่ผิดปกติอยู่แล้ว

อันตรายที่ 3 อุปกรณ์ช่วยเดินสำหรับเด็กอาจเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บรุนแรงได้

อุปกรณ์ช่วยเดินไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก เมื่ออยู่ในอุปกรณ์ช่วยเดิน เด็กจะสามารถเร่งความเร็วในการเดินได้เป็นวินาทีละ 1 เมตร ซึ่งถือว่าเร็วเกินกว่าที่คุณพ่อคุณแม่จะจับตัวลูกได้ทันหากเขาวิ่งอย่างรวด เร็วไปที่ประตูที่เปิดอยู่แล้วตกบันไดลงไป หรือพุ่งตรงไปที่หม้อต้มน้ำที่กำลังเดือดอยู่

แล้วฉันจะกระตุ้นลูกน้อยเรียนรู้การเดินได้อย่างไร

* เลิกใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน
* ใช้เปลเด็กหรือ Play-center ซึ่งเคลื่อนที่ไม่ได้ ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีพื้นที่สำหรับออกสำรวจได้อย่างปลอดภัยและไม่จำกัด
* ช่วยให้ลูกน้อยได้บริหารกล้ามเนื้อ ยกตัวเอย่างเช่น เวลาที่พยุงเขายืนหรือเวลาที่เขาก้าวเดิน
* ช่วยกระตุ้นการรับรู้ความรู้สึก ยกตัวอย่างเช่น การนวดให้ลูกน้อย
* ช่วยกระตุ้นประสาทการทรงตัว ยกตัวอย่างเช่น การจับลูกโยก ยกขึ้นยกลงหรือจับเขาแกว่งไปมา
* การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อาจช่วยให้กล้ามเนื้อของลูกน้อยแข็งแรงขึ้นได้


จะเป็นเช่นไรหากลูกมีลักษณะการเดินผิดปกติ

หากสังเกตเห็นว่าลูกเดินเขย่งเท้าหรือเดินโดยใช้ด้านข้างของเท้า ควรไปปรึกษาแพทย์

ที่มา : ฮักกี้ดอทซีโอดอททีเฮท