การเลี้ยงดูลูก - ศักยภาพสูงสุดของลูกน้อยด้าน การพัฒนาทักษะการรับรู้ ( ความสำคัญของการอ่านหนังสือให้ลูกน้อยฟัง )

จะมีของขวัญอะไรที่ดีไปกว่าการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับลูก

การสอนให้เด็กอ่านหนังสือเป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนการกระตุ้นให้เขาอยากอ่านหนังสือก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แน่นอนว่าเด็กที่ยังเล็กมากไม่สามารถอ่านหนังสือได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น การอ่านหนังสือให้พวกเขาฟังในแต่ละวันจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

การอ่านหนังสือให้เขาฟังจะทำให้เขามีความคิดสร้างสรรค์ ทำให้การอ่านเป็นกิจกรรมที่น่าสนุกใจ ทำให้เด็กรักและเห็นคุณค่าของหนังสือ ส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาและคำศัพท์ และทำให้ครอบครัวมีเวลาได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่มีสิ่งใดที่จะดีไปกว่าการกอดลูกอย่างรักใคร่ในห้องนั่งเล่นหรือทานถั่ว ถุงใหญ่ๆ ไปพร้อมกับลูกน้อยในขณะที่อ่านหนังสือด้วยกัน

ในขณะที่เราอ่านหนังสือให้ลูกฟังนั้น จะเป็นการ

* ตอบคำถามของเด็ก ๆ
* ส่งเสริมทักษะทางภาษา
* ส่งเสริมทักษะทางการอ่าน
* ช่วยให้เด็กมีสมาธินานขึ้น
* ช่วยสานความสัมพันธ์ในครอบครัว

ถึงแม้ว่าคุณแม่จะไม่มีเวลามากนัก และพูดจริงๆ แล้ว เราทุกคนส่วนใหญ่ก็ไม่มีเช่นกัน แต่คุณยังคงสามารถส่งเสริมให้ลูกรักการอ่านได้โดยแต่งนิทานขึ้นมาเอง แล้วเล่าประกอบกับหนังสือภาพที่ไม่มีคำพูด หรือพาเขาไปฟังคนเล่านิทานเป็นประจำ ซึ่งห้องสมุดส่วนใหญ่มักจะมีช่วงเล่านิทานให้เด็กฟังเป็นประจำ

ไม่มีคำว่าเร็วเกินไปสำหรับการเริ่มต้น!

สมองของเด็กจะเริ่มพัฒนาตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาลืมตาดูโลก เด็กแรกเกิดจะตอบสนองต่อรูปภาพที่มีสีสันสดใส คำที่มีเสียงสัมผัส และความอบอุ่นที่คุณพ่อคุณแม่ได้พูดคุยกับเขา น้ำเสียงคุณพ่อคุณแม่ใช้น้ำเสียงในขณะที่อ่านหนังสือให้เด็กฟังจะแตกต่างไป จากเสียงพูดปกติของเรา ซึ่งเด็กๆ จะตอบสนองต่อเสียงแบบนี้อย่างสนอกสนใจ

รากฐานที่จะกำหนดว่าเด็กจะเฉลียวฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ และมีจินตนาการมากน้อยเพียงใดนั้น จะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาก่อนที่เด็กจะอายุครบ 1 ขวบ ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อได้เลย แต่มันก็เป็นความจริง ในวัยนี้เด็กส่วนมากจะเรียนรู้เสียงทั้งหมดที่ใช้ประกอบเป็นภาษาพูดแล้ว เมื่ออายุได้ 2 ขวบ เด็กจะรับรู้คำศัพท์ได้ประมาณ 50 คำ

จากการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่า คนเราจะสามารถเรียนรู้ภาษาได้รวดเร็วที่สุดในช่วง 5 ปีแรกของชีวิต และมีวิธีสอนภาษาให้ลูกวิธีไหนบ้างที่จะดีไปกว่าการอ่านหนังสือให้เขาฟัง?

การอ่านหนังสือเสียงดังๆ ให้เด็กฟังจะช่วยพัฒนาทักษะทางการพูดและช่วยให้พวกเขาสามารถทำการเชื่อมโยง ทางภาษาได้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาของคำ วิธีการเรียงคำในประโยค หรือหน้าที่ของคำ หนังสือช่วยให้เด็กเรียนรู้อย่างตั้งอกตั้งใจ เพื่อสำรวจความรู้สึกภายในจิตใจของพวกเขาเอง เพื่อแสดงความรู้สึกของเขา และเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง

จากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์โดยตรงระหว่าง ความอ่านออกเขียนได้กับความสำเร็จในโลกภายนอก แม้แต่ความเชื่อมั่นในตัวเองก็ยังมีความสัมพันธ์กับความสามารถในการอ่านและ เขียน ดังนั้น จึงอย่ามองข้ามพลังของหนังสือไป

อย่าเป็นกังวลหากคุณแม่ไม่มีหนังสือสำหรับเด็กที่บ้านเลยสักเล่มเดียว เด็กเล็กๆ จะชอบฟังเสียงคุณพ่อคุณแม่อ่านหนังสือพิมพ์หรือนิยายเล่มโปรดถ้าคุณพ่อคุณ แม่อ่านด้วยน้ำเสียงที่น่าสนใจสำหรับเขา ปลุกความมีชีวิตชีวาและใช้ทักษะทางการแสดงอย่างเต็มฝีมือ แล้วเขาจะรักมัน

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเด็กจำเป็นต้องฟังนิทาน 1,000 เรื่องก่อนที่เขาจะเริ่มเรียนรู้การอ่านด้วยตัวเอง ฟังดูเหมือนเยอะเกินไปใช่ไหม ก็แค่วันละ 3 เรื่องตลอด 1 ปีเท่านั้นเอง

ที่มา : ฮักกี้ดอทซีโอดอททีเฮท