A Blogger by Beamcool

Thursday, June 4, 2009

ทำไมต้องฝากครรภ์

Posted by wittybuzz at 12:22 AM

การ ตั้งครรภ์และการคลอดเป็นสภาวะเสี่ยงทางสุขภาพอย่างหนึ่งในประเทศที่กำลัง พัฒนาอัตราการตายของแม่และทารำจะสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วค่อนข้างมาก ซ่งสาเหตุประการหนึ่งคือขาดการดูแลครรภ์อย่างถูกวิธี ดังนั้นการใช้เวลาไม่มากนักไปฝากครรภ์และได้รับการตรวจครรภ์อย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

การฝากครรภ์มีความจำเป็น

เพื่อให้การตั้งครรภ์ดำเนินไปด้วยดีจนกระทั่งคลอดและได้ทารกที่มีสุขภาพ สมบูรณ์ หญิงมีครรภ์จำเป็นต้องได้รับการดูแลและปฏิบัติตนอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของ แพทย์ ทั้งนี้เพราะความผิดปกติบางอย่างของแม่และทารก เช่น ความผิดปกติของรกหรือความพิการของเด็ก อาจมีผลต่อการเจริญเติบโตและการมีชีวิตของทารกในครรภ์ โรคบางอย่างของแม่สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ไปสู่ลูก โรคบางอย่างถ่ายทอดทางกระแสเลือด โรคบางอย่างทำให้แม่มีอันตรายเมื่อมีการตั้งครรภ์ และโรคหรือสภาวะบางอย่างมีผลต่อการคลอด เช่น ทำให้คลอดลำบาก หรือเกิดการติดเชื้อระหว่างคลอด

การทราบล่วงหน้าว่ามารดาหรือทารกมีความเสี่ยงด้านสุขภาพจะทำให้ แพทย์สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม เช่น การดูแลครรภ์อย่างใกล้ชิด กำหนดวิธีคลอด และระยะเวลาที่จะคลอด รวมทั้งการดูแลหลังคลอด ตัวอย่างแม่ที่อายุมาก มีโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ก็อาจต้องตรวจหาความผิดปกติของทารก ถ้าทารกมีขนาดใหญ่มากหรือแม่มีเชิงกรานแคบ อาจต้องวางแผนทำการผ่าตัดคลอด ถ้าเลือดแม่กับลูกเข้ากันไม่ได้ ก็ต้องเตรียมการถ่ายเลือดภายหลังคลอด เป็นต้น

หญิงมีครรภ์ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนด้านโภชนาการ การใช้ยาต่างๆ เพศสัมพันธ์ การเตรียมตัวสำหรับการคลอด และการให้นมบุตร รวมทั้งการวางแผนครอบครัวหลังจากคลอดบุตรแล้ว นอกจากนั้นยังต้องรู้จักสังเกตความผิดปกติของการตั้งครรภ์และอาการเจ็บ ครรภ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้หญิงมีครรภ์จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือพยาบาลเมื่อมาฝาก ครรภ์

การตรวจสุขภาพของมารดาและทารกเมื่อได้รับการฝากครรภ์

เมื่อหญิงมีครรภ์มาฝากครรภ์ แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็น แพทย์จะซักประวัติการขาดประจำเดือน โรคประจำตัวต่างๆ การตั้งครรภ์และการคลอดในอดีต ตลอดจนสภาวะของทารกในครรภ์ก่อนๆ เพื่อวินิจฉัยว่ามีการตั้งครรภ์และค้นหาสภาวะที่ต้องระวังสำหรับการตั้ง ครรภ์ครั้งนี้

การตรวจร่างกายโดยละเอียดจะทำให้แพทย์ทราบถึงสุขภาพของหญิงมี ครรภ์ การตรวจขนาดของมดลูกจะสามารถบอกสภาวะของเด็ก เช่น ถ้ามดลูกเล็กกว่าที่ควรอาจเป็นเพราะเด็กไม่หรือพิการ แต่ถ้ามดลูกใหญ่อาจเป็นเพราะเด็กตัวใหญ่เกินไป เป็นเด็กแฝด หรือมีปริมาณน้ำคร่ำมากผิดปกติ

นอกจากนั้นการตรวจครรภ์ยังสามารถบอกท่าของเด็กที่อยู่ในครรภ์ และการฟังเสียงหัวใจเด็กก็ช่วยบอกว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว

การตรวจทางห้องปฏิบัติการบางอย่างจำเป็นต้องทำเมื่อมีการตั้ง ครรภ์ เช่น การตรวจปัสสาวะเพื่อยืนยันการตั้งครรภ์ ตรวจความเข้มข้นของเลือด เพราะทารกต้องใช้ธาตุเหล็กจากแม่เพื่อการสร้างเลือด จึงอาจทำให้แม่มีสภาวะโลหิตจางได้ และการตรวจไข่ขาวในปัสสาวะเพื่อค้นหาความผิดปกติของไตหรือสภาวะครรภ์เป็น พิษ (pre-eclampsia)

การกรวดน้ำเหลืองเพื่อดูภูมิคุ้มกันต่อเชื้อซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบชนิดบี และเอชไอวี ก็มีความจำเป็น ซึ่งถ้าเป็นบวกแพทย์จะต้องวางแผนป้องกันการถ่ายทอดโรคจากมารดาไปสู่ทารก

บางกรณีอาจต้องมีการตรวจพิเศษ เช่น การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (อัตราซาวนด์) เพื่อดูอายุครรภ์ที่แน่นอน ดูความผิดปกติของทารก เช่น ความพิการต่างๆ รวมทั้งการเต้นของหัวใจ เพื่อประเมินว่าเด็กมีชีวิตหรือไม่

การเฝ้าติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์

การเจริญเติบโตของทารกใรครรภ์สามารถประเมินได้จากขนาดของมดลูกที่ใหญ่ขึ้น เป็นสัดส่วนกับอายุครรภ์และน้ำหนักของแม่ที่เพิ่มขึ้น

สามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ มดลูกจะอยู่ในอุ้งเชิงกราน อายุครรภ์ครบห้าเดือน ยอดมดลูกอยู่ที่ระดับสะดือ และอยู่เกือบถึงลิ้นปี่เมื่อครรภ์ครบกำหนด

ส่วนน้ำหนักขงแม่ในสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์จะเพิ่มขึ้นเพียง เล็กน้อย เพราะหญิงมีครรภ์มักมีอาการคลื่นไส้อาเจียนและรับประทานอาหารได้น้อย หลังจากนั้นน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเป็นลำดับประมาณเดือนละ 1-1.5 กิโลกรัม โดยตลอด การตั้งครรภ์น้ำหนักของแม่จะเพิ่มขึ้นประมาณ 10-12 กิโลกรัม ทั้งนี้เป็นส่วนของเด็ก รก และน้ำคร่ำประมาณ 5 กิโ,กรัม เป็นส่วนของมดลูกและส่วนอื่นของแม่อีก 7 กิโลกรัม

กรณีที่น้ำหนักของแม่เพิ่มน้อย หยุดเพิ่ม หรือน้ำหนักลดลง รวมทั้งยอดมดลูกไม่สูงขึ้น อาจแสดงถึงความผิดปกติของทารกในครรภ์ เช่น เด็กโตช้าหรือเด็กเสียชีวิตในครรภ์ ซึ่งจะต้องมีการตรวจและเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีตรงกันข้ามอาจเกิดจากครรภ์แผด น้ำคร่ำมากผิดปกติ หรือมีเนื้องอกของมดลูกและรังไข่ ซึ่งจำเป็นต้องวินิจฉัยสาเหตุที่แน่นอนเช่นกัน

สิ่งที่หญิงมีครรภ์ควรสังเกตและระมัดระวัง

ยาหลายชนิดมีอันตรายต่อทารกในครรภ์ ทำให้เกิดความพิการชนิดต่างๆ การเจริญเติบโตช้า หรือสมองเสื่อม ดังนั้นการใช้ยาขณธตั้งครรภ์โดยเฉพาะในช่วงสามเดือนแรกควรปรึกษาแพทย์ก่อน

บุหรี่ทำให้ทารกมีน้ำหนักน้อย แม่จึงควรหยุดสูบบุหรี่เมื่อตั้งครรภ์ สุราก็ทำให้เด็กซึมและดิ้นน้อยลง จึงอาจมองข้ามความผิดปกติอย่างอื่นของเด็ก

การดิ้นแสดงถึงความแข็งแรงของทารก ถ้าทารกดิ้นน้อยลงหรือหยุดดิ้น ต้องรีบไปพบแพทย์

การบวม โดยเฉพาะการบวมทั้งตัว มักแสดงถึงพยาธิสภาพของไตหรือภาวะครรภ์เป็ฯพิษ จึงควรมารับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยโรคให้แน่ชัด ถ้ามีสภาวะครรภ์เป็นพิษต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

น้ำเดินเกิดจากการที่ถุงน้ำคร่ำรั่วหรือแตก ซึ่งควรจะมีลักษณะเป็นน้ำใสๆ ไม่ใช่มูก ถ้ามีน้ำเดินและยังไม่มีการเจ็บครรภ์ภายใน 24 ชั่วโมง ควรพบแพทย์เพื่อดูแลรักษาในโรงพยาบาลแพราะอาจเกิดการติดเชื้อในแม่และทารก หรือทารกเสียชีวิตได้

อาการเลือดออกเล็กน้อย โดยเฉพาะที่มีมูกปน มักเป็นอาการนำของการเจ็บครรภ์คลอด แต่ถ้าเลือดออกมาก ไม่ว่าจะเป็นนช่วงครรภ์ก่อนครบกำหนดหรือครบกำหนดแล้ว และจะร่วมกับการเจ็บครรภ์หรือไม่ก็ตาม ต้องรีบมาพบแพทย์เพราะอาการดังกล่าวอาจเกิดจากสภาวะรกเกาะต่ำหรือรกลอกตัว ก่อนกำหนด ซึ่งเป็ฯอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตของแม่และทารก

ในเดือนสุดท้ายของการตั้งครภ์ หญิงบางคนจะมีอาการเจ็บครรภ์เพราะมดลูกรัดตัว แต่ไม่สม่ำเสมอ และอาการปวดมักจะอยู่บริเวณท้องน้อยหรือขาหนีบ อาการเจ็บครรภ์แบบนี้เรียกว่าเจ็บเตือน ซึ่งจะหานไปเมื่อได้หลับพักผ่อน แต่ถ้าอาการเจ็บเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ถี่ขึ้น และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ควรรีบไปโรงพยาบาล เพราะกระบวนการคลอดได้เริ่มขึ้นแล้ว

ที่มา: นิตยสารแพรว

0 comments:

Post a Comment

 

Mama And Baby Care Copyright © 2009 Baby Shop is Designed by Ipietoon Sponsored by Emocutez